Last updated: 25 ก.ค. 2566 | 467 จำนวนผู้เข้าชม |
“การใช้ไพ่ยิปซีทำนายทางเลือกธุรกิจและการลงทุน”
สำหรับหัวข้อนี้แทบจะเรียกได้ว่าใช้บ่อยที่สุดสำหรับนักพยากรณ์ หรือแม้กระทั่งนักธุรกิจเองก็ตาม ที่บางครั้งใช้เปิดเพื่อเลือก หรือดูโอกาสเสี่ยงในการลงทุนเชิงพยากรณ์ นั่นหมายถึงสิ่งที่ผู้เขียนพยายามบอกตั้งแต่อารัมภบทว่า การใช้ไพ่ยิปซี ไม่ใช่เพื่อการตัดสินใจเลือกโดยไม่พิจารณาองค์ประกอบและเหตุผลสอดคล้องรองรับ แต่ใช้เพื่อดูความเป็นไปได้ของปัจจัยต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งหากเปิดไพ่ออกมาแล้ว ความเป็นไปได้สูงตามที่ไพ่ชี้นำ ก็เอามาดูโอกาสความเป็นไปได้นั้นว่า มีสิทธิ์ที่จะออกมาในรูปแบบดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งเรื่องที่น่าแปลกสำหรับการใช้ไพ่ยิปซีเพื่อการพยากรณ์ทางเลือกนี้มักจะออกมาได้ตรงกับปัจจัยแวดล้อมอย่างประหลาด บางสิ่งบางอย่างคุณอาจไม่ได้คาดการณ์ไว้ ไพ่ยิปซีพยากรณ์ก็จะช่วยเตือนสติ หรือช่วยให้ฉุกคิดขึ้นได้ทันท่วงที เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนคู่หูที่รู้ใจนักธุรกิจได้ดีทีเดียว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องไม่ลืมเหตุปัจจัยอย่างที่ผู้เขียนเคยกล่าวไว้ใน “คู่มือนักพยากรณ์ไพ่ยิปซี” ว่า การเปิดไพ่ในโอกาสต่าง ๆ จะต้องไม่อยู่ในเหตุผลของจิตชักนำเด็ดขาด เพราะหากว่าจิตใจของเราไม่นิ่งพอ แกว่งไปแกว่งมาตามความรู้สึกนึกคิดของตนเอง ไพ่ยิปซีจะออกมาไม่ตรง และโน้มเอียงไปตามความคิดของเราเสียส่วนมาก นั่นเป็นสาเหตุที่นักลงทุนหลายคน ถึงแม้จะศึกษาศาสตร์แห่งไพ่ยิปซีบ้าง แต่ก็ยังต้องพึ่งหมอดูอยู่ดี เพราะเปิดไพ่ดูเกณฑ์ตัวเองไม่ได้นั่นเอง
อันดับแรกจะขอกล่าวถึงการใช้ไพ่ยิปซีเพื่อพิจารณาทางเลือกธุรกิจก่อนนะครับ ส่วนมากแล้วเราจะใช้ผังไพ่คำถาม-คำตอบ เพื่อดูความเป็นไปได้ของธุรกิจตัวเลือก เพราะจุดเด่นของผังไพ่คำถาม-คำตอบคือ ไพ่ใบที่ 2-3 จะช่วยบอกเหตุปัจจัย หรือแรงสนับสนุนได้ดี ซึ่งนั่นหมายความว่า หากตัวเลือกทางธุรกิจนั้นมีตัวแปรปัญหาใด ไพ่จะแสดงออกมาให้เห็นด้วยเช่นกัน แต่หากไม่ติดปัญหาอะไร ราบรื่นดีแค่ไหน ไพ่ก็จะแสดงให้เห็นในตำแหน่งที่ 2-3 เป็นหน้าไพ่เชิงบวก และ 4-5-6-7 จะเป็นผลลัพธ์ของตัวเลือกเหล่านั้น ซึ่งด้วยประสบการณ์ของผู้เขียนแล้ว การใช้ไพ่เพื่อพิจารณาทางเลือกธุรกิจ หากมี 2 ตัวเลือก จะใช้ผังไพ่คำถาม-คำตอบ 2 ผังเปรียบเทียบกันได้เลย ดังนี้
วิธีการคือสับไพ่ แล้วเลือกหยิบไพ่วางเป็น 2 ผังดังภาพ ไพ่ใบแรกคือตำแหน่งที่ 1 ด้านซ้าย ไพ่ใบที่สองคือตำแหน่งที่ 1 ด้านขวา ไพ่ใบที่สามจะเป็นตำแหน่งที่ 2 ด้านซ้าย ไพ่ใบที่สี่จะเป็นตำแหน่งที่ 2 ด้านขวา ไล่ไปเรื่อย ๆ จนครบ 14 ใบ ซึ่งนี่คือกรณีที่มีตัวเลือกคำถาม 2 ตัวเลือกเท่านั้น หากมีมากกว่า 2 ตัวเลือก จำเป็นต้องเปิดไพ่ที่ละกองจากสำรับ เพราะจะเปิดทีเดียวมากกว่า 2 ผังไม่ได้ พลังไพ่จะไม่ครอบคลุมคำถามดังกล่าวได้ ซึ่งก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรหากจะใช้วิธีการเปิดไพ่ที่ละกองก็เพียงแค่สับไพ่แล้วเปิดทีละคำถามนั่นเอง ซึ่งก็เป็นวิธีการที่ดี
สำหรับวิธีการอ่านหน้าไพ่ก็อ่านตามความหมายหลัก ๆ ของผัง นั่นคือ
ตำแหน่งที่ 1 ไพ่แทนตัวเลือกทางธุรกิจ ไพ่จะบอกสถานการณ์เด่น หรือตัวแปรหลักในตำแหน่งนี้ หรืออาจจะเป็นบุคคลที่สำคัญกับตัวเลือกดังกล่าวก็เป็นไปได้ บางตำราจะใช้วิธีการเลือกไพ่ 1 ใบขึ้นมาเลย โดยการดูองค์ประกอบว่า ตัวเลือกทางธุรกิจนั้นคืออะไร เช่น ธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์ไฟฟ้า ก็จะใช้ไพ่ เดอะ ทาวเวอร์ เป็นไพ่แทนตัวธุรกิจนั้น หรือ ธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ก็จะใช้ไพ่เก้าถ้วย หรือเก้าเหรียญ มาเป็นสื่อแทนตัวผู้ลงทุนที่เป็นหญิงหรือชายก็ได้เช่นกัน ซึ่งวิธีการนี้ก็ไม่ผิดแต่อย่างใด แถมยังช่วยบ่งชี้คำตอบได้ดีอีกด้วย (แล้วแต่จะเลือกใช้ตามถนัด)
ตำแหน่งที่ 2 – 3 หมายถึง อุปสรรคปัญหา ต้นเหตุปัญหา หรือหากเป็นทิศทางที่ดี ไพ่ดีสองตำแหน่งนี้ก็จะกลายเป็นแรงสนับสนุนของตัวเลือกดังกล่าว
ตำแหน่งที่ 4 – 5 – 6 จะเป็นคำอธิบายของตัวเลือกทางธุรกิจนั้น ว่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดีแค่ไหน หรือสื่อถึงผลเสียของสถานการณ์ตัวเลือกดังกล่าวก็ได้ ซึ่งหากเป็นไปในทิศทางนั้น ไพ่สรุปใบสุดท้ายก็จะทำให้เราเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น
ตำแหน่งที่ 7 ไพ่สรุป นั่นหมายถึงไพ่ใบสุดท้ายที่เป็นคำตอบของตัวเลือกทางธุรกิจดังกล่าว หากไพ่สรุปออกมาในทิศทางที่ดี นั่นหมายถึงองค์ประกอบใดที่ผ่านมาในไพ่ใบอื่น ๆ อาจจะสื่อถึงอุปสรรคปัญหาในเบื้องต้น แต่ผลลัพธ์ก็ยังชื่นมื่น แต่ถ้าสถานการณ์ในไพ่ใบอื่นออกมาในทิศทางที่ดี แต่ใบสรุปเป็นไพ่เสีย ก็อาจจะหมายความได้ถึงโอกาสความเป็นไปได้ที่ดีในตอนต้น แต่บั้นปลายก็มีการสูญเสีย หรือผลขาดทุนเกิดขึ้นได้เช่นกัน
ดังนี้แล้ว ตัวเลือกทางธุรกิจที่ดี คือไพ่ที่สื่อความหมายในทิศทางที่ดีสอดคล้องกันทั้ง 7 ใบ ถึงจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุนนั่นเอง ยก “ตัวอย่างการใช้ผังไพ่เพื่อดูตัวเลือกทางธุรกิจ” โดยเจ้าชะตาเป็นชายวัย 50 ปี ต้องการจะเปิดกิจการใหม่เพิ่มเติม โดยมีตัวเลือกระหว่าง “บาร์เครื่องดื่ม” กับ “ร้านสักคิ้ว” และเกิดความลังเลว่า จะเปิดร้านอะไรดี ทำธุรกิจอะไรถึงจะดีถึงจะรวย ถึงจะเหมาะสมกับตนเอง หรือควรจะเปิดควบทั้งสองอย่างดี โดยที่ชั้นล่างทำบาร์เครื่องดื่ม ชั้นบนทำร้านสักคิ้ว เราจึงทำการเปิดไพ่หาคำตอบให้กับเรื่องนี้
จากภาพตัวอย่างด้านบนจะเห็นได้ว่า ทั้งสองธุรกิจมีเกณฑ์ที่จะเป็นไปได้ และเติบโตทั้งสองอย่าง ถ้าทำบาร์เครื่องดื่ม เจ้าของกิจการจะถูกมองในมุมของหนุ่มใหญ่เจ้าเสน่ห์ นุ่มลึกน่าหลงใหล (คิงส์ถ้วย) การเปิดกิจการจะดำเนินไปได้ด้วยดี เมื่อตัดสินใจลงมือทำจริงจัง (หนึ่งไม้เท้า) ก็จะประสบความสำเร็จในตอนต้น (หกไม้เท้า) สภาพแวดล้อมทุกอย่างสนับสนุนตัวเลือกการทำบาร์เครื่องดื่มได้ดี เปิดกิจการแล้วจะได้รับเงินก้อนใหญ่ หรืออาจจะต้องใช้เงินทุนมากสักหน่อย (หนึ่งเหรียญ) และจะต้องเหนื่อยเพราะความรับผิดชอบสูง (สิบไม้เท้า) และการแข่งขันก็มีค่อนข้างสูงตามมาด้วยเช่นกัน ไหนจะต้องระวังเรื่องของกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่อาจจะโดนพุ่งเป้ามาที่กิจการได้ (เจ็ดไม้เท้า) แต่โดยรวมแล้วก็พอที่จะคาดหวังความสำเร็จ และผลกำไรจากเครื่องดื่มได้ (7 ถ้วย หมายถึงทรัพย์สมบัติที่อยู่ในถ้วย แปลได้ตรงตัวกับธุรกิจเกี่ยวกับร้านอาหารและเครื่องดื่ม แต่เป็นเพียงความคาดหวัง และโอกาสที่จะเกิดขึ้น ต้องดูไพ่ดีอื่น ๆ ประกอบในการทำนาย)
เมื่อพิจารณาไพ่กรณีถ้าทำร้านสักคิ้ว ไพ่แนะนำถึงการเปิดกิจการที่ไม่ใช่การรับสักเพียงอย่างเดียว แต่หมายรวมถึงการเปิดสอนด้วยถึงจะดี (เดอะไฮโรแฟนท์) ในเริ่มต้นอาจจะต้องคัดสรรค์ เลือกเฟ้น (สี่ถ้วย) และต้องเสียสละตนเองพอสมควร (แฮงค์แมน) ถ้าเทียบแล้วก็เหนื่อยคนละแบบกับบาร์เครื่องดื่ม เพราะบาร์เครื่องดื่มจะเป็นการเหนื่อยเพราะภาระหน้าที่ ที่ค่อนข้างหนัก ความรับผิดชอบสูง แต่ร้านสักคิ้วจะต้องเสียสละเวลา เสียสละตนเอง ต้องใช้ความอดทนและพากเพียร เพราะเป็นลักษณะงานศิลปะบนใบหน้าด้วยหรือเปล่า เมื่อเปิดกิจการแล้วจะมีโชคลาภทางด้านสายงานสักคิ้ว (สามเหรียญ) ลูกค้า หรือผู้สนใจเรียนจะเข้ามาอย่างน่าแปลกใจ แต่ความเหนื่อยในตอนต้นจะคลี่คลายลงเมื่อมีผู้ร่วมธุรกิจที่เชื่อมั่นในฝีมือได้ มาช่วยสอน ช่วยสัก (สองไม้เท้า) ทำให้กิจการติดอันดับต้น ๆ ของความนิยมทางโซเชียล (เดอะสตาร์) ถือเป็นการพลิกผันดวงชะตาที่ดี มีโชคลาภในท้ายที่สุด (วิลล์ ออฟ ฟอร์จูน)
เมื่อทำนายได้ดังนี้ หมายถึงกิจการทั้งสองมีทิศทางที่จะไปได้ด้วยดี ปัญหาและอุปสรรคเดียวคือเจ้าชะตาพร้อมที่จะทำทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกันหรือไม่ หรือกลางวันเปิดสักคิ้ว กลางคืนเปิดบาร์เครื่องดื่ม แล้วจะมีกำลังมากพอหรือเปล่า เป็นเรื่องที่ต้องปรึกษากัน ต้องคิดต้องวางแผนกันต่อไป เพราะจากหน้าไพ่แล้ว จะเห็นได้ว่ามีความเหนื่อยถึงสองแบบ เป็นต้น
และนี่ก็คือตัวอย่างการใช้ไพ่ยิปซีเพื่อหาทางออกสำหรับตัวเลือกทางธุรกิจ เกี่ยวกับการตัดสินใจประกอบอาชีพ หรือเปิดกิจการใดแล้วจะดีแค่ไหน ภาพรวมจะออกมาเช่นไร ทิศทางไหนจะดีกว่ากัน ในหมวดนี้ ยังสามารถเปิดไพ่เพื่อดูความเสี่ยงในการลงทุนได้เช่นเดียวกัน โดยใช้ผังคำถาม-คำตอบเช่นเดิม และเสี่ยงทายว่า หากลงทุน ลงหุ้น หรือร่วมทุนใด แล้วจะมีผลกำไร หรือขาดทุน จะด้วยวิธีเสี่ยงจับไพ่ 7 ใบเลย หรือจะกำหนดไพ่แทนทุนดังกล่าวก็ได้ ซึ่งใช้ไพ่ที่เกี่ยวข้องกับประเภทธุรกิจที่เราจะลงทุนนั้น ๆ แล้วหาโอกาส ความเสี่ยง และผลสรุปจากไพ่ใบที่ 7 เช่นเดิม แล้วนำไปประกอบการพิจารณาว่า ควรลงทุนกับสิ่งนั้นหรือไม่นั่นเอง
--------------------------------------
ผู้เขียนอนุญาตให้ Copy หรือ แชร์บทความในเว็บไซต์ ไปเผยแพร่ในช่องทางของตัวเองได้ แต่ขอความกรุณาให้เครดิต หรือแนบลิงก์สั่งซื้อหนังสือให้ด้วยจักขอบพระคุณยิ่งครับ
(ไม่อนุญาตให้จัดพิมพ์ ไม่ว่าจะทำไฟล์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อแจก
หรือจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ใด มีความผิดตาม พรบ.ลิขสิทธิ์)
.................................................
แนะนำหนังสือคู่มืออ่านไพ่ทาโรต์ (หรือไพ่ยิปซี)
เล่มที่ 1 คู่มือนักพยากรณ์ไพ่ยิปซี
(The Tarot Guide)
ใจความย่อ : เนื้อหาเชิงเล่าเรื่องตั้งแต่ต้นตำนาน การนำไพ่มาใช้ยุคแรกเริ่ม ปรับพื้นฐานนักพยากรณ์ ความหมายไพ่ 78 ใบ และเทคนิคในการอ่านตั้งแต่พื้นฐานจนถึงระดับมืออาชีพ พร้อมตัวอย่างการอ่านไพ่ ฯลฯ
(The Tarot Guide 2 Get Rich)
ใจความย่อ : เนื้อหาต่อยอดจากคู่มือเล่มแรก แต่ฉีกไปในทางการใช้ไพ่เพื่อธุรกิจการงาน การหาตัวเลือก การเสี่ยงโชคลาภ การทำนายวันดี เวลาเฮง การอ่านพลังงานสถานที่ พลังงานบนใบหน้า การปรับธาตุหนุนธาตุแก้พลังเสีย ฯลฯ
เพื่อดูตัวอย่างหนังสือและหน้าสารบัญ
---------------------------------------------
#ฝึกดูไพ่ยิปซี #สอนดูไพ่ยิปซี #ความหมายไพ่ยิปซี #ความหมายไพ่ทาโรต์ #ฝึกอ่านไพ่ #อ่านไพ่ทาโรต์ #อ่านไพ่ยิปซี
4 ต.ค. 2567
2 ต.ค. 2567